Hamilton เป็นแบรนด์ที่มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์ของนาฬิกาสำหรับกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีรีส์ Khaki Field ซึ่งมีต้นกำเนิดย้อนไปถึงช่วงสงครามโลกที่นาฬิกาของแบรนด์ได้ถูกใช้งานโดยทหารอเมริกันอย่างแพร่หลาย และในยุคปัจจุบัน นาฬิกา Khaki Field ก็ยังคงเป็นตัวแทนของความทนทานและความแม่นยำ ล่าสุด Hamilton ได้ต่อยอดมรดกนี้เข้าสู่สนามรบดิจิทัลอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ Khaki Field Auto 38mm Call of Duty ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการร่วมมือกับแฟรนไชส์วิดีโอเกมแนวยิงบุคคลที่หนึ่ง (First-Person Shooter) ชื่อดังอย่าง Call of Duty ซึ่งนาฬิการุ่นนี้จะไปปรากฏอยู่บนข้อมือของตัวละคร “Axel Vermaak” ในเกมภาคล่าสุดอย่าง Call of Duty: Black Ops 7
นาฬิการุ่นนี้ยังคงรักษาดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกา Field Watch เอาไว้อย่างครบถ้วน ด้วยหน้าปัดสีดำที่ให้ความชัดเจนและอ่านง่ายสูงสุด มาพร้อมหลักชั่วโมงแบบตัวเลขอารบิก พิมพ์สีขาวขนาดใหญ่ที่เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในสภาวะแสงน้อย โดยมีการแสดงผลฟังก์ชันหลักได้แก่ ชั่วโมง, นาที, และวินาที รวมถึงช่องแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา สำหรับกระจกหน้าปัดนั้นถูกเลือกใช้เป็นกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทนทานต่อรอยขีดข่วนเป็นอย่างดี
ตัวเรือนผลิตจากวัสดุ Stainless Steel ขนาด 38 มิลลิเมตร หนา 10.9 มิลลิเมตร รูปทรงแบบ Field Watch ที่เรียบง่าย ถูกขัดแต่งแบบด้านเพื่อลดการสะท้อนแสงตามแบบฉบับนาฬิกาทหาร และมีระดับการกันน้ำที่ 100 เมตร ฝาหลังแบบทึบที่สลักลวดลายพิเศษตามธีม Call of Duty เพื่อบ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Calibre Hamilton H-10 (Base ETA C07.611) ที่ทำงานที่ความี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง มาพร้อมสายนาฬิกาแบบ NATO สีเขียวทหารที่เสริมด้วยชิ้นส่วนหนังสีน้ำตาล
Hamilton Khaki Field Auto 38mm Call of Duty
Ref. H70475930
ผลิตจำนวนจำกัด 5,000 เรือน
ราคา 32,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม hamiltonwatch.com
Initial thoughts
Hamilton Khaki Field Auto 38mm Call of Duty เป็นการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างโลกของนาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ทางการทหารอันยาวนาน กับโลกของวิดีโอเกมสมัยใหม่ที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในปัจจุบัน การเลือกใช้ Khaki Field ขนาด 38 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ได้รับการยอมรับว่าเหมาะสมกับนาฬิกาสนามมากที่สุด ถือเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด ขณะที่การนำเสนอรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน เช่น การใช้ฝาหลังเฉพาะรุ่น และสาย NATO ที่เข้ากันกับชุดอุปกรณ์ยุทธวิธี ทำให้รุ่นพิเศษนี้ยังคงความสามารถในการสวมใส่ในชีวิตประจำวันไว้ได้สูง โดยไม่ตกแต่งรายละเอียดของเกมมากจนเกินไป นับเป็นการสร้างสรรค์นาฬิกาที่เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มนักสะสมนาฬิกาแบบดั้งเดิมกับกลุ่มผู้เล่นเกมที่ชื่นชอบของสะสมได้อย่างลงตัวและมีกลยุทธ์







