สรุปผลประกาศรางวัลเกียรติยศแห่งวงการนาฬิกา Grand Prix d’Horlogerie de Genève GPHG 2025

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับงานประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดของวงการนาฬิกา “Grand Prix d’Horlogerie de Genève” (GPHG) ประจำปี 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในปีนี้ รางวัลสูงสุด “Aiguille d’Or” Grand Prix ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของงาน ตกเป็นของ Breguet Classique Souscription 2025 ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านกลไกและความสง่างามคลาสสิกของแบรนด์ นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว ยังมีนาฬิกาอีกหลายรุ่นที่ได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

1. รางวัลนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี (Ladies’ Watch Prize): Gérald Genta, Gentissima Oursin Fire Opal – นาฬิกาที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และอัญมณีอันเป็นเอกลักษณ์
2.​ รางวัลนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีกลไกซับซ้อน (Ladies’ Complication Watch Prize): Chopard, Imperiale Four Seasons – ถ่ายทอดความงามของสี่ฤดูกาลผ่านกลไกที่ซับซ้อนและงานฝีมือชั้นสูง
3. รางวัลนาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษ (Men’s Watch Prize): Urban Jürgensen, UJ-2: Double wheel natural escapement – จัดแสดงกลไก Escapement อันซับซ้อนและงานขัดแต่งที่ประณีต
4. รางวัลนาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษกลไกซับซ้อน (Men’s Complication Watch Prize): Bovet 1822, Récital 30 – โดดเด่นด้วยการแสดงผลที่สลับซับซ้อนและการออกแบบตัวเรือนที่เป็นนวัตกรรม

5. รางวัลนาฬิกาบอกเวลาเดียว(Time Only Watch Prize): Daniel Roth, Extra Plat Rose Gold – ชูความเรียบง่ายแต่หรูหรา ด้วยตัวเรือนที่บางเฉียบในวัสดุโรสโกลด์
6. รางวัลนาฬิกาไอคอนิก (Iconic Watch Prize): Audemars Piguet, Royal Oak Perpetual Calendar – การตีความนาฬิการะดับตำนานอย่าง Royal Oak พร้อมฟังก์ชันปฏิทินถาวร
7. รางวัลนาฬิกาทูร์บิญอง (Tourbillon Watch Prize): Bvlgari, Octo Finissimo Ultra Tourbillon – ตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งนาฬิกาบางเฉียบ ด้วยกลไกทูร์บิญองที่บางที่สุด
8. รางวัลนาฬิกาโครโนกราฟ (Chronograph Watch Prize): Angelus, Chronographe Télémètre Yellow Gold – นาฬิกาจับเวลาในสไตล์วินเทจที่มาพร้อมสเกล Télémètre

9. รางวัลนาฬิกากลไกอันเป็นเลิศ (Mechanical Exception Watch Prize): Greubel Forsey Nano Foudroyante นาฬิกาที่มาพร้อมนวัตกรรมกลไกการจับเวลาที่ละเอียดและล้ำสมัย
10. รางวัลนาฬิกาสปอร์ตยอดเยี่ยม (Sports Watch Prize): Chopard Alpine Eagle 41 SL Cadence 8HF นาฬิกาสปอร์ตหรูที่มาพร้อมกลไกความถี่สูง ซึ่งช่วยให้เดินได้เที่ยงตรงแม่นยำมากที่แม้จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก
11. รางวัล สำหรับนาฬิกาที่คุ้มค่า(“Petite Aiguille” Prize): M.A.D. Editions, M.A.D.2 Green – นาฬิกาดีไซน์ล้ำสมัยจากทีมงานของ MB&F ในราคาที่เข้าถึงได้
12. รางวัลสำหรับนาฬิการาคาเข้าถึงง่าย(Challenge Watch Prize): Dennison, Natural Stone Tiger Eye In Gold – นำเสนอหน้าปัดหิน “ตาเสือ” ที่สวยงามในราคาที่น่าสนใจ

13. รางวัลนาฬิกาอัญมณี (Jewellery Watch Prize): Dior Montres, La D de Dior Buisson Couture – ผสมผสานศาสตร์แห่งนาฬิกาเข้ากับงานอัญมณีชั้นสูงสไตล์ Dior
14. รางวัลนาฬิกางานฝีมือศิลปะ (Artistic Crafts Watch Prize): Voutilainen, 28GML SOUYOU – สุดยอดงานศิลปะบนหน้าปัดที่แสดงถึงทักษะช่างฝีมือชั้นครู
15. รางวัลความกล้าแสดงออก (Audacity Prize): Fam Al Hut, Möbius – นาฬิกาที่ท้าทายการออกแบบแบบดั้งเดิมด้วยรูปทรงแบบ “แถบเมอบิอุส”
16. รางวัลความเที่ยงตรง (Chronometry Prize): Zenith, G.F.J. Calibre 135 – นาฬิกาที่อุทิศให้กับความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์

17. รางวัลการค้นพบใหม่ (Horological Revelation Prize): Anton Suhanov, St. Petersburg Easter Egg Tourbillon Clock – นาฬิกาตั้งโต๊ะรูปไข่ Fabergé ที่มาพร้อมกลไกทูร์บิญองสุดอลังการ
18. รางวัลนาฬิกาตั้งโต๊ะ (Mechanical Clock Prize): L’Épée 1839, Albatross L’Épée 1839 X MB&F – นาฬิกาตั้งโต๊ะเชิงกลไกที่ได้แรงบันดาลใจจากยานอวกาศ
19. รางวัลพิเศษจากคณะกรรมการ (Special Jury Prize): เพื่อมอบให้บุคคลที่มีคุณูปการต่อวงการนาฬิกา ซึ่งในปีนี้ได้แก่ Alain Dominique Perrin อดีต CEO ของแบรนด์ ​Cartier และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านธุรกิจสินค้าหรูหราและศิลปะร่วมสมัย