OMEGA Speedmaster Dark & Grey Side of the Moon วิวัฒนาการครั้งสำคัญแห่งนวัตกรรมและจิตวิญญาณแห่งอวกาศ

ในปี 1968 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ เมื่อยานอวกาศ Apollo 8 กลายเป็นเที่ยวบินแรกของมนุษย์ที่โคจรรอบดวงจันทร์ ในขณะที่นักบินอวกาศ Jim Lovell ผู้เป็นนักบินโมดูลบังคับบัญชา ได้กล่าวคำสุดท้ายไปยังศูนย์ควบคุมภาคพื้นดินว่า “เราจะพบกันอีกครั้งที่ด้านตรงข้าม” ก่อนที่ยานจะลับหายไปจากสัญญาณวิทยุเพื่อไปยังดวงจันทร์ด้านไกลนั้น นักบินอวกาศทุกคนบนยานต่างสวมใส่นาฬิกา OMEGA Speedmaster วันนี้ OMEGA จึงสานต่อมรดกอันยิ่งใหญ่นั้น ด้วยการเปิดตัวคอลเลกชัน Speedmaster Dark and Grey Side of the Moon เจ็ดรุ่นใหม่ ซึ่งต่อยอดจากคอลเลกชัน Dark Side of the Moon ดั้งเดิมที่สร้างความประทับใจให้กับนักสะสมทั่วโลกเมื่อ 12 ปีที่แล้ว โดยรุ่นใหม่นี้เป็นวิวัฒนาการครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของคอลเลกชันนี้

Dark Side of the Moon Original

คอลเลกชันใหม่นี้มาพร้อมกับสี่หน้าปัดที่โดดเด่น ทุกรุ่นมีโครงสร้างหน้าปัดเซรามิกสองชั้นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งให้ความลึกที่เหนือกว่า พร้อมการขัดผิวด้วยเลเซอร์ที่สามารถจับและเปลี่ยนแสงได้ 

  • รุ่นปรับปรุงใหม่ของ Dark Side of the Moon Original: โดดเด่นด้วยมาตรวัด Tachymeter ที่ใช้เทคโนโลยี Liquidmetal™ 
  • รุ่น All-Black: หน้าปัดเซรามิกมีการพ่นทรายด้วยเลเซอร์ พร้อมหลักชั่วโมงขัดเงาเพชรแบบเจียระไน ที่บรรจุด้วยสาร Super-LumiNova 
  • รุ่น Grey Side of the Moon: มีหน้าปัดแบบโครง Skeleton ซึ่งเผยให้เห็นพื้นผิวดวงจันทร์ด้านใกล้ที่ผ่านการกัดด้วยเลเซอร์ และพื้นผิวดวงจันทร์ด้านไกลจะปรากฏให้เห็นผ่านทางฝาหลัง เพื่อเป็นการรำลึกถึงการสังเกตการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของ Jim Lovell ที่ว่า “ดวงจันทร์เป็นสีเทาโดยพื้นฐาน” 
  • รุ่นไขลานแบบใหม่ (Black Edition): หน้าปัดเป็นแบบด้านเต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องหมายสีเทาและสีแดงแบบถ่ายโอน และเข็มนาฬิกาโครโนกราฟกลางสีแดงที่โดดเด่น 
Dark Side of the Moon All Black

สำหรับตัวเรือนคืออีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่ทาง OMEGA ได้ใส่เข้ามา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นในฐานะผู้นำแห่งการพัฒนาด้านวัสดุศาสตร์ของวงการอุตสาหกรรมนาฬิกายุคใหม่

  • ขนาดตัวเรือน: ทุกรุ่นยังคงรักษาขนาดตัวเรือนที่ 44.25 มิลลิเมตร หนา 15.09 มิลลิเมตร แต่ได้รับการปรับปรุงสัดส่วนให้มีรูปทรงที่เพรียวบางลง
  • วัสดุ: ตัวเรือนผลิตจากเซรามิกขั้นสูง โดยใช้เทคนิคการสร้างแบบเซรามิกที่ได้รับการปรับปรุงมาจากการพัฒนาตลอดสี่ปี กระบวนการเจียระไนเซรามิกแบบขัดเงาใหม่นี้ ให้ความแม่นยำเป็นพิเศษ สร้างพื้นผิวที่มีความลึกและความแวววาวอย่างน่าทึ่ง 
  • ขอบหน้าปัดและเม็ดมะยม: ขอบหน้าปัดและเม็ดมะยมมีการนำเทคโนโลยี Liquidmetal™ มาใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและต้านทานรอยขีดข่วนได้อย่างเหนือกว่า 
  • การกันน้ำ: 50 เมตร
Dark Side of the Moon Black Edition

คอลเลกชันนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer ที่ได้รับการรับรอง และมีสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบใหม่ 

  • รุ่นไขลานแบบใหม่ (Black Edition): ใช้กลไก Co-Axial Master Chronometer 9908 ซึ่งเป็นกลไกไขลานด้วยมือ
  • รุ่น All-Black: ใช้กลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 9900 โดยมีส่วนประกอบของกลไกภายในที่ทำให้มืดลง
  • รุ่นปรับปรุงใหม่ของ Dark Side of the Moon Original: ใช้กลไก Co-Axial Master Chronometer 9900
  • รุ่น Grey Side of the Moon: ใช้กลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 3869
  • รายละเอียดการขัดแต่ง: ในรุ่น All-Black กลไก 9900 มีส่วนประกอบของกลไกที่ทำให้มืดลง ส่วนรุ่น Apollo 8 มีพื้นผิวดวงจันทร์ที่กัดด้วยเลเซอร์มองเห็นได้ผ่านกลไก 
  • ความถี่และพลังงานสำรอง: Calibre 9900 , 9908 ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4Hz) สำรองพลังงาน 60 ชั่วโมง Calibre 3869 ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (3Hz) สำรองพลังงาน 50 ชั่วโมง โดยกลไกทั้งหมดสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้มากถึง 15,000 gauss
Grey Side of the Moon

OMEGA ได้แนะนำตัวเลือกสายนาฬิกาที่ได้รับการปรับปรุงในคอลเลกชันนี้ 

  • สายผ้าไนลอน: ได้รับการบุด้วยยางเพื่อเพิ่มความสบายในการสวมใส่
  • สายยางแบบใหม่: มีลวดลายพื้นผิวดวงจันทร์อยู่ด้านหลัง เพื่อสร้างการเชื่อมโยงทางสัมผัสกับมรดกการสำรวจอวกาศ

OMEGA Speedmaster Dark and Grey Side of the Moon

Ref. 310.92.44.51.01.004 Original สายยาง
Ref. 310.92.44.51.01.002 Original สายผ้า
ราคา 514,000 บาท
Ref. 310.92.44.51.01.005 All Black สายยาง
Ref. 310.92.44.51.01.003 All Black สายผ้า
ราคา 527,000 บาท
Ref. 310.92.44.51.01.001 Black Edition สายยาง
ราคา 527,000 บาท
Ref. 310.92.44.50.06.001 Apollo 8 สายผ้า
Ref. 310.92.44.50.06.002 Apollo 8 สายยาง
ราคา 540,000 บาท
วางจำหน่าย ตุลาคม 2025
รายละเอียดเพิ่มเติม omegawatches.com

Initial Thoughts

การนำเสนอวิวัฒนาการล่าสุดของคอลเลกชัน Speedmaster Dark and Grey Side of the Moon ในปี 2025 นี้ ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมวัสดุของ OMEGA อย่างชัดเจน การใช้เทคนิควิศวกรรมเซรามิกขั้นสูง พร้อมกับการปรับปรุงสถาปัตยกรรมของตัวเรือนให้เพรียวบางลง เป็นการผสานความงามตามแบบฉบับดั้งเดิมเข้ากับความประณีตทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นที่ระลึก Apollo 8 ด้วยการนำเสนอลวดลายพื้นผิวดวงจันทร์บนกลไก นับเป็นการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศของแบรนด์เข้ากับงานฝีมือด้านนาฬิกาได้อย่างลึกซึ้งและน่าประทับใจ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานของนาฬิกาโครโนกราฟเซรามิกสำหรับคนรุ่นต่อไปได้อย่างน่าสนใจ