Rado Centrix Super Jubile นิยามแห่งศิลปะอันหรูหราบนเรือนเวลา

ในโลกของเรือนเวลาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดทางเทคนิคและความเที่ยงตรง Rado ยังคงยืนหนึ่งในฐานะผู้นำด้านการรังสรรค์นาฬิกาที่ผสานความประณีตทางศิลป์เข้ากับนวัตกรรมวัสดุอย่างเหนือชั้น Rado Centrix Super Jubile คือเรือนเวลาที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความหรูหราและความร่วมสมัยในทุกองศา

Rado Centrix Super Jubile ได้รับการต่อยอดให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยการประดับเพชรแท้บนตัวเรือนและหน้าปัด เป็นการผสานความงามอันคลาสสิกของตระกูล Centrix เข้ากับความเปล่งประกายเหนือกาลเวลาได้อย่างลงตัว ตัวเรือนขนาด 35 มิลลิเมตร หนา 11.1 มิลลิเมตร ผลิตจากสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัดประดับเพชร Top Wesselton VS–SI ฟูลคัทจำนวน 60 เม็ด อย่างประณีต หน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวบริสุทธิ์ประดับด้วยหลักชั่วโมงเพชรอีก 11 เม็ด เพิ่มความหรูหราอย่างมีระดับ พร้อมหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา กระจกหน้าปัดเป็นแบบ แซฟไฟร์ทรงโค้ง เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน มอบภาพลักษณ์ที่เปล่งประกายพร้อมความคมชัดในการอ่านเวลา

ภายในขับเคลื่อนกลไกไขลานอัตโนมัติ calibre R763 (base ETA C07.611) ที่ผ่านการปรับเทียบอย่างพิถีพิถันใน 5 ตำแหน่ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด พร้อม Nivachron™ hairspring ซึ่งช่วยต้านทานสนามแม่เหล็ก ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง กลไกภายในยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์โปร่งใส ส่วนสายนาฬิกาเป็นแบบสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ ที่สลับกับข้อต่อไฮเทคเซรามิกสีขาวตรงกลาง ปิดท้ายด้วยบานพับล็อกแบบ 3 ตอน เสริมความมั่นใจในการสวมใส่

Rado Centrix Super Jubile

Ref. R30230902
ราคา 171,200 บาท
วางจำหน่าย สิงหาคม 2025
รายละเอียดเพิ่มเติม rado.com

Initial Thoughts

Rado Centrix Super Jubile เป็นนาฬิกาที่สะท้อนความหรูหราและความประณีตได้อย่างแท้จริง การผสมผสานระหว่างตัวเรือนสีโรสโกลด์และหน้าปัดมุกประดับเพชรทำให้เรือนเวลานี้ดูโดดเด่นและเป็นเครื่องประดับที่งดงาม การใช้กลไก R763 พร้อม Nivachron™ hairspring ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Rado ในการพัฒนาทั้งด้านความงามและประสิทธิภาพทางเทคนิค ถือเป็นอีกหนึ่งเรือนเวลาที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหานาฬิกาที่ผสานความคลาสสิกเข้ากับความหรูหราในทุกรายละเอียด