Czapek & Cie คือแบรนด์นาฬิกาที่ได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่ในปี 2015 ในจิตวิญญาณของ François Czapek ช่างทำนาฬิกาผู้มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 19 ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้จัดหานาฬิกาให้กับราชสำนักอิมพีเรียลของนโปเลียนที่ 3 จุดเปลี่ยนสำคัญของแบรนด์ยุคใหม่คือการเปิดตัวคอลเลกชัน Antarctique ในปี 2020 ซึ่งเป็นนาฬิกาแนวสปอร์ต-ชิกพร้อมสายรัดข้อมือแบบอินทิเกรตและกลไกอินเฮาส์ตัวแรกของแบรนด์ ในปี 2024 Czapek ได้เพิ่มรุ่น Mount Erebus ที่มาในตัวเรือนทองคำ ซึ่งตั้งชื่อตาม ภูเขาไฟ Mount Erebus ที่ยังคุกรุ่นในทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งทราบกันว่ามีการปล่อยอนุภาคทองคำขนาดเล็กออกมาในกลุ่มควันภูเขาไฟ เป็นแรงบันดาลใจให้ Czapek รังสรรค์นาฬิกาในตัวเรือนทองคำอันล้ำค่า และล่าสุดในปี 2025 นี้ Czapek ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ที่นำความโดดเด่นของหน้าปัดหินหายากจากทั่วโลกมาผสานเข้ากับตัวเรือนทองคำ ภายใต้ชื่อ Antarctique Mount Erebus Rare Stones
นาฬิการุ่นใหม่นี้มาพร้อมหน้าปัดที่แตกต่างกันสามแบบ ซึ่งล้วนมาจากหินธรรมชาติหายาก และถูกสร้างสรรค์ด้วยความร่วมมือกับ Gemmes-Tech ผู้เชี่ยวชาญด้านหน้าปัดหินแข็ง โดยเป็นนาฬิกาแสดงผลเพียงแค่ฟังก์ชัน ชั่วโมง นาที และวินาทีเท่านั้น หน้าต่างแสดงวันที่ถูกตัดออกไปเนื่องจากความยากลำบากในการตัดหินแข็งเหล่านี้
- Lapis Lazuli (โรสโกลด์): หน้าปัดจากหินลาพิส ลาซูลีสีน้ำเงินเข้มจัดจากอัฟกานิสถาน โดดเด่นด้วยประกายสีทองระยิบระยับของแร่ไพไรต์
- Falcon Eye (โรสโกลด์): หน้าปัดจากหินฟอลคอน อาย ควอตซ์จากแอฟริกาใต้ แสดงผลแบบ Chatoyance หรือการเล่นแสงแบบตาแมวในโทนสีน้ำเงิน, เทาแอนทราไซต์, และสีทอง
- Green Meteor (เยลโลว์โกลด์): หน้าปัดจากชิ้นส่วน อุกกาบาต Gibeon จากนามิเบีย ที่ผ่านการแกะสลักด้วยกรดเพื่อเผยให้เห็นลวดลายผลึก Widmanstätten อันเป็นเอกลักษณ์ และเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีเขียวโปร่งแสง
หลักชั่วโมงเป็นแบบทรงแท่ง ส่วนเข็มนาฬิกาเป็นทรงดาบ ทั้งหลักชั่วโมงและเข็มถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super Luminova และมีสีที่เข้ากันกับตัวเรือนทองคำ กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงกล่องที่มีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน
ตัวเรือนนาฬิกามาในขนาด 40.5 มิลลิเมตร หนา 10.6 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 120 เมตร ตัวเรือนทำจาก ทองคำ 18K โดยรุ่น Lapis Lazuli และ Falcon Eye ใช้โรสโกลด์ ส่วนรุ่น Green Meteor ใช้เยลโลว์โกลด์ ตัวเรือนมีการตกแต่งด้วยการขัดลายซาตินและขัดเงา ตัวเรือนมาในรูปทรงสปอร์ต-ชิกอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน Antarctique และมีเม็ดมะยมเป็นแบบ ขันเกลียว ตัวเรือนด้านหลังเป็นแบบโปร่งใส ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติอินเฮาส์ Calibre SXH5 ใช้กลไกปล่อยจักรแบบ Swiss lever escapement และมีบาลานซ์แบบ Variable-inertia balance ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 60 ชั่วโมง กลไกขึ้นลานด้วยไมโครโรเตอร์ ที่ทำจาก แพลทินัม รายละเอียดการขัดแต่งกลไกนั้นประณีต โดยมีบริดจ์ 7 ชิ้น รวมถึงบริดจ์แบบเปลือยที่ยึดชุดบาลานซ์ นาฬิกามาพร้อมกับสายโลหะชนิดเดียวกับตัวเรือนและมีรุ่นสายยางให้เลือกอีกด้วย
Czapek Antarctique Mount Erebus Rare Stones
Lapis Lazuli ผลิตเพียง 10 เรือนต่อปี
ราคา 66,000 (สายโลหะ) 43,000 CHF (สายยาง)
Green Meteor ผลิตจำนวนจำกัด 8 เรือน
ราคา 63,000 (สายโลหะ) 39,400 CHF (สายยาง)
Falcon Eye ผลิตเพียง 10 เรือนต่อปี
ราคา 62,000 (สายโลหะ) 39,000 CHF (สายยาง)
วางจำหน่าย ตุลาคม 2025
รายละเอียดเพิ่มเติม czapek.com
Initial Thoughts
Czapek Antarctique Mount Erebus Rare Stones ถือเป็นการยกระดับคอลเลกชันสปอร์ต-ชิกของแบรนด์ให้ก้าวไปสู่ระดับ Haute Horlogerie อย่างสมบูรณ์ การนำเสนอความหรูหราของทองคำและเสน่ห์ของหน้าปัดหินธรรมชาติอันหายาก เช่น อุกกาบาต Gibeon และลาพิส ลาซูลี ซึ่งผ่านกรรมวิธีอันละเอียดอ่อน เป็นการแสดงออกถึงความชาญฉลาดในการออกแบบและความประณีตในงานฝีมืออย่างชัดเจน แม้ว่าหน้าปัดหินจะทำให้ต้องตัดฟังก์ชันวันที่ออกไป แต่ความงดงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพื้นผิวแต่ละเรือนก็แลกมาซึ่งความคุ้มค่าเกินกว่าจะเป็นเพียงการบอกเวลา การผลิตที่จำกัดจำนวนต่อปีและต่อรุ่น ยิ่งเพิ่มความปรารถนาและสถานะอันพิเศษให้กับนาฬิกาเหล่านี้ ซึ่งตอกย้ำถึงปรัชญาของ Czapek ในการผสานมรดกทางประวัติศาสตร์เข้ากับนวัตกรรมร่วมสมัยได้อย่างลงตัวและน่าชื่นชมยิ่ง







