นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 Apple Watch ได้พลิกโฉมวงการนาฬิกาและอุปกรณ์สวมใส่ไปตลอดกาล จากนาฬิกาอัจฉริยะที่เน้นการแจ้งเตือนและการใช้งานทั่วไป ก็ได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งจนกลายเป็นอุปกรณ์คู่กายที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ก้าวล้ำขึ้นทุกปี พร้อมกับการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกเป็นซีรีส์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นพื้นฐานไปจนถึงรุ่นระดับมืออาชีพ สำหรับปี 2025 นี้ Apple ได้เปิดตัว Apple Watch รุ่นใหม่พร้อมกันถึงสามซีรีส์ ได้แก่ Series 11, SE 3 และ Ultra 3 ที่มาพร้อมการปรับปรุงที่สำคัญแต่ยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้อย่างลงตัว
Apple Watch Series 11
- หน้าจอ: มาพร้อมหน้าจอที่สว่างขึ้นถึง 2 เท่า และอัตรารีเฟรชที่เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้การแสดงผลลื่นไหลยิ่งขึ้น พร้อมการใช้งานในที่แสงจ้าได้ดีกว่าเดิม
- ตัวเรือน: มีขนาดให้เลือก 41 มม. และ 45 มม. ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมและสเตนเลสสตีล มีรูปทรงสี่เหลี่ยมโค้งมนอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อม Digital Crown และปุ่มด้านข้าง
- ฟังก์ชัน: มีฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่ปรับปรุงใหม่ เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น และการติดตามการนอนหลับที่ละเอียดกว่าเดิม
- กลไก: ใช้ชิป S11 รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่เร็วขึ้นถึง 2 เท่า
- ราคา: เริ่มต้นที่ 14,900 บาท
Apple Watch Ultra 3
- ฟังก์ชัน: ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว มีฟีเจอร์ตรวจวัดอุณหภูมิน้ำสำหรับการดำน้ำ และทำงานเป็นคอมพิวเตอร์ดำน้ำได้ในตัว โดยรองรับการดำน้ำได้ลึก 40 เมตร
- หน้าจอ: หน้าจอที่สว่างที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch และปรับปรุงคุณสมบัติการแสดงผลให้ดีขึ้น
- ตัวเรือน: ขนาด 49 มม. ผลิตจากไทเทเนียมพร้อมดีไซน์ที่แข็งแกร่งทนทานต่อการใช้งานหนัก มาพร้อมปุ่ม Action Button สีส้มที่สามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลากหลาย
- กลไก: ขับเคลื่อนด้วยชิป S11 เช่นเดียวกับรุ่น Series 11 แต่มีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่ดียิ่งขึ้น
- ราคา: เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
Apple Watch SE 3
- หน้าจอ: ขนาด 40 มม. และ 44 มม. มาพร้อมคุณสมบัติหลักที่จำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป
- ตัวเรือน: ตัวเรือนอะลูมิเนียม
- ฟังก์ชัน: ได้รับการอัปเกรดชิปให้เร็วขึ้น และมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น การตรวจจับการล้ม (Fall Detection) และการตรวจจับการชน (Crash Detection)
- ราคา: เริ่มต้น 8,500 บาท
วางจำหน่าย 20 กันยายน 2025
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ apple.com
Initial thoughts
Apple Watch รุ่นใหม่ในปีนี้ไม่ได้มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่พลิกวงการอย่างเห็นได้ชัด แต่เป็นการค่อยๆ ปรับปรุงและพัฒนาในจุดที่สำคัญต่างๆ ครับ อย่าง Series 11 ก็ได้หน้าจอที่สว่างขึ้นและชิปที่เร็วขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ทั่วไปจะได้ประโยชน์มาก ส่วน Ultra 3 ก็มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับนักผจญภัยที่ใช้งานได้จริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Apple ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ สำหรับ SE 3 ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ไม่ต้องการฟีเจอร์ที่ซับซ้อนแต่ยังได้เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยรวมแล้วเป็นการอัปเกรดที่ฉลาดและตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่มอย่างแท้จริง