จากวิสัยทัศน์อันก้าวล้ำของ Ulysse Nardin ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งการบอกเวลา สู่การกำเนิดของนาฬิกา Blast Free Wheel Maillechort ที่ไม่เพียงสานต่อแนวคิดการเปิดเปลือยกลไกอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังเป็นการคารวะต่อวัสดุเก่าแก่ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัย การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของแบรนด์ในการผลักดันขีดจำกัดด้านวิศวกรรมการผลิตนาฬิกา และการนำเสนอความงามของกลไกในมิติที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเปิดตัวรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ulysse Nardin Freak S Nomad และ Freak ONE ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนาฬิกาแนว Avant-Garde
รูปลักษณ์ที่เผยให้เห็นถึงความซับซ้อนของกลไกได้อย่างเต็มที่ เข็มบอกเวลาทรงสามเหลี่ยมเคลือบสารเรืองแสง ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางสายตา ในขณะที่กลไกต่างๆ ทั้ง Tourbillon ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และชุด Barrel ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นอิสระราวกับลอยอยู่ในอากาศ และถูกขัดแต่งอย่างประณีต แสดงให้เห็นถึงเทคนิคชั้นสูงในการผลิตนาฬิกา กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงกล่องที่เผยให้เห็นทุกรายละเอียดจากทุกมุมมองอย่างชัดเจน ตัวเรือนผลิตจาก ไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำ ขัดเงาสลับด้าน ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและทันสมัย ในตัวเรือน White Gold 18K ขนาด 45 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 30 เมตร
นาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานด้วยมือแบบ In-House Caliber UN-176 มาพร้อมฟังก์ชันการแสดงเวลาแบบชั่วโมงและนาทีกับกลไก Flying Tourbillon โดยทัั้งหมดถูกยึดโยงไว้ที่แท่นเครื่องที่ผลิตจาก German Silver โดยใช้เทคโนโลยี Ulysse Nardin Anchor Escapement อันเป็นนวัตกรรมของแบรนด์ ทำงานด้วยความถี่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง (2.5 Hz) (18,000 Vph) สำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 7 วัน ซึ่งมาพร้อมกับสายนาฬิกาหนังจระเข้สีดำกับหัวเข็มขัดแบบบานพับวัสดุ White Gold 18K
Ulysse Nardin Blast Free Wheel Maillechort
Ref. 1760-401LE-4A-MAIL/3A
ผลิตจำนวนจำกัด 50 เรือน
ราคา 120,000 CHF
วางจำหน่าย กรกฎาคม 2025
รายละเอียดเพิ่มเติม ulysse-nardin.com
Initial Thoughts
นี่คือนาฬิกาที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นอย่างแท้จริง การตัดสินใจที่จะนำวัสดุ Maillechort กลับมาใช้ใหม่ในบริบทที่ทันสมัยของ Free Wheel นั้น เป็นการผสมผสานที่ชาญฉลาดระหว่างความเก่าแก่และความล้ำยุค การเผยให้เห็นกลไกแบบเปลือยเปล่าเช่นนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงทักษะทางวิศวกรรมอันยอดเยี่ยมของ Ulysse Nardin แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้สวมใส่และผู้ที่ได้ชื่นชม นาฬิกาเรือนนี้เป็นมากกว่าแค่เครื่องบอกเวลา แต่เป็นงานศิลปะเชิงกลที่เคลื่อนไหวได้ การออกแบบที่กล้าหาญและไม่เหมือนใครนี้บ่งบอกถึงตัวตนของผู้สวมใส่ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่างและมองหาอะไรที่นอกเหนือจากกรอบเดิม