Grand Seiko Evolution 9 Collection Spring Drive U.F. A. SLGB001 , SLGB003 ก้าวใหม่แห่งความแม่นยำสู่ยุคความเที่ยงตรงระดับสูงสุด

นับตั้งแต่ปี 1960 ที่นาฬิกาเรือนแรกของ Grand Seiko ได้ถือกำเนิดขึ้น การแสวงหาซึ่งความเที่ยงตรงสูงสุดได้กลายเป็นรากฐานและหัวใจสำคัญของแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Grand Seiko ได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้แก่วงการนาฬิกามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวกลไกจักรกล V.F.A. (Very Fine Adjusted) ในปี 1969 ที่สามารถทำความเที่ยงตรงได้ในระดับ ±1 นาทีต่อเดือน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งในยุคนั้น จนถึงช่วงปลายทศวรรษ 1970 การพัฒนากลไก Spring Drive ได้เริ่มต้นขึ้น โดยมีเป้าหมายในการผสมผสานพลังงานแบบดั้งเดิมของเมนสปริงเข้ากับความก้าวหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์ และในปี 2004 Grand Seiko ก็ได้เผยโฉม Spring Drive Caliber 9R65

SLGB001

ในวันนี้ มรดกแห่งความแม่นยำได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้งกับกลไก Spring Drive Caliber 9RB2 ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็น U.F.A. (Ultra Fine Accuracy) หรือ “ความเที่ยงตรงระดับสูงสุด” ด้วยกลไกใหม่ล่าสุด Caliber 9RB2 ซึ่งเป็นกลไก Spring Drive ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของ Grand Seiko เอง กลไกนี้โดดเด่นด้วย พลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง (ประมาณ 3 วัน) และมีความเที่ยงตรงอันน่าทึ่งเพียง ±20 วินาทีต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความเที่ยงตรงอย่างแท้จริง โดยถูกนำเสนอภายใต้คอลเลกชัน Grand Seiko Evolution 9 ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่ผสมผสานความงามเชิงสุนทรีย์เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว สำหรับรายละเอียดของหน้าปัดนั้น เอกสารไม่ได้ระบุถึงลักษณะเฉพาะของสีหรือลวดลายสำหรับรุ่น SLGB001 และ SLGB003 โดยตรง แต่โดยทั่วไปแล้ว Grand Seiko มักจะโดดเด่นด้วยพื้นผิวหน้าปัดที่มีความละเอียดและงานขัดแต่งที่ประณีต ทำให้เกิดมิติอันน่าหลงใหลยามต้องแสง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาโดยตลอด ด้านบนของหน้าปัดได้รับการปกป้องด้วยกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง พร้อมสารเคลือบกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน เพื่อให้การมองเห็นหน้าปัดเป็นไปอย่างคมชัดในทุกสภาพแสง

SLGB003

ตัวเรือนของนาฬิการุ่นนี้มีสองทางเลือกที่สะท้อนความแตกต่างในด้านวัสดุ โดยรุ่น SLGB001 มาในตัวเรือนที่ผลิตจาก Platinum 950 ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและหนักแน่น ในขณะที่รุ่น SLGB003 เลือกใช้วัสดุ High Intensity Titanium ซึ่งมีน้ำหนักเบาและทนทานเป็นพิเศษ โดยทั้งสองรุ่นมาในตัวเรือนขนาด 37.0 มิลลิเมตร หนาเพียง 11.4 มิลลิเมตร และผ่านการขัดแต่งอย่างประณีตตามแบบฉบับ Grand Seiko โดยมาพร้อมฝาหลังแบบขันเกลียวที่โปร่งใส เพื่อเผยให้เห็นความงามของกลไกภายในและกันน้ำได้ที่ระดับ 10 บาร์ (100 เมตร) พร้อมคุณสมบัติป้องกันสนามแม่เหล็ก 4,800 A/m ซึ่งเสริมความทนทานในการใช้งานในชีวิตประจำวัน หัวใจของเรือนเวลกลไกอัตโนมัติ Caliber 9RB2 ซึ่งเป็นกลไก Spring Drive ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของ Grand Seiko เอง กลไกนี้โดดเด่นด้วย พลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง (ประมาณ 3 วัน) และมีความเที่ยงตรงอันน่าทึ่งเพียง ±20 วินาทีต่อปี โดยมีทับทิม 34 เม็ด และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30.0 มม. หนา 5.02 มม. แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความเที่ยงตรงอย่างแท้จริง ส่วนของสายนาฬิกาถูกออกแบบมาให้เข้าคู่กับวัสดุของตัวเรือน โดยรุ่น SLGB001 จับคู่กับสายหนังจระเข้ คุณภาพสูง พร้อมตัวล็อกแบบพับสามทบที่ทำจาก Platinum 950 ในขณะที่รุ่น SLGB003 มาพร้อมกับสาย High Intensity Titanium 

Grand Seiko Evolution 9 Collection Spring Drive U.F.A.

Ref.SLGB001 Platinum 950
ผลิตจำนวนจำกัด 80 เรือน
ราคา 1,470,000 บาท
Ref.SLGB003 Titanium
ราคา 409,000 บาท
วางจำหน่าย กรกฎาคม 2025
รายละเอียดเพิ่มเติม grand-seiko.com

Initial Thoughts

การเปิดตัวกลไก Spring Drive Caliber 9RB2 พร้อมการกำหนด U.F.A. หรือ “Ultra Fine Accuracy” โดย Grand Seiko ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันไม่หยุดยั้งของแบรนด์ในการแสวงหาความเที่ยงตรงสูงสุด การลดความคลาดเคลื่อนลงเหลือเพียง ±20 วินาทีต่อปีนั้น เป็นความสำเร็จทางเทคนิคที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นถึงขีดสุดของนวัตกรรม Spring Drive ซึ่งผสมผสานจุดเด่นของกลไกจักรกลและอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างลงตัว และสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญา “The Nature of Time” ที่ฝังรากลึกในทุกชิ้นงานของพวกเขา และทำให้แบรนด์นี้ยังคงเป็นที่จับตามองและเป็นที่ปรารถนาของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลกอย่างแท้จริง